top of page

BLOG POST

Search
Writer's picturechonthichacha3

เคยสงสัยมั้ยคะใส่รองเท้ากีฬาไปวิ่ง เเล้วร้อยเชือกแบบไหน เเน่นเเค่ไหนถึงดีที่สุดนะ?

Updated: Oct 18, 2021

เรื่องเล็กๆ ที่อาจจะต้องใส่ใจ วิจัยสำหรับการร้อยเชือกแบบไหนให้เหมาะกับการวิ่ง

เคยสงสัยมั้ยคะ? ใส่รองเท้ากีฬาไปวิ่งเเล้วร้อยเชือกแบบไหน เเน่นเเค่ไหนถึงดีที่สุดนะ


รองเท้ากีฬา

ขอบคุณรูปภาพจาก:https://unsplash.com/photos/d3bYmnZ0ank


นักกีฬามาทำเเผ่นรองในรองเท้าที่คลินิกเราเยอะ วันนี้ทางคลินิกเลยเล่าถึงวิจัยเกี่ยวกับการร้อยเชือกรองเท้าในนักวิ่งให้ผู้อ่านได่อ่านกันนะคะ วิจัยนี้ชื่อว่า “ Effect of different shoe-lacing patterns on the biomechanics of running shoes ” เป็นของคุณ MARCO HAGEN และ EWALD M.HENNIG จากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเเละการเคลื่อนไหว มหาวิทยาลัย Duisburg Essen ประเทศเยอรมันนีค่ะ

คุณ Marco เเละคุณ Ewald เค้าให้นักวิ่ง 20 คนที่วิ่งเเบบเอาส้นเท้าลงก่อน( heel to toe runner) มาใส่รองเท้าที่ผูกเชือกต่างกัน โดยเค้าต้องการจะทดสอบว่าการวิธีร้อยเชือกเเละรัดเชือกเเน่นๆ เเละการรัดเชือกที่สูงขึ้นมาจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของส้นเท้าเเละมีผลต่อการลดเเรงกระเเทกเวลาวิ่งหรือไม่อย่างไรค่ะ เเละเค้ายังดูด้วยเเบบไหนที่นักวิ่งใส่เเล้วสบายที่สุด

เค้าเเบ่งการร้อยเชือกเเละเเบ่งความเเน่นเป็น ไม่เเน่น เเน่นปกติ เเน่นมาก ไปใน 6 รูปแบบ ดังนี้ค่ะ สำหรับการร้อยเชือก เค้าเลือกการร้อยเเบบไขว้กัน หรือแบบ X มาเป็นรูปแบบหลักในการร้อยเชือกรองเท้า เพราะเค้าอ้างอิงวิจัยที่ทำมาเเล้วว่า การร้อยเชือกแบบ X เป็นการร้อยที่ทำให้รองเท้าเเน่นที่สุดค่ะ


รองเท้า

แบบที่ 1 รหัส REG6 - ร้อยเชือกแบบ X ใส่ทั้ง 6 รู เหมือนรูป a ในความเเน่น ปกติ

เเบบที่ 2 รหัส WEAK6 - ร้อยเชือกแบบ X ใส่ทั้ง 6 รู เหมือนรูป a ในความเเน่น แบบไม่เเน่น

แบบที่ 3 รหัส TIGHT6 - ร้อยเชือกแบบ X ใส่ทั้ง 6 รู เหมือนรูป a ในความเเน่น แบบเเน่นมาก

แบบที่ 4 รหัส EYE12 - ร้อยเชือกเเค่รูที่ 1 เเละ 2 เหมือนในรูป b ในความเเน่น ปกติ

แบบที่ 5 รหัส EYE135 - ร้อยเชือกรูที่ 1 , 3 และ 5 เหมือนในรูป c ในความเเน่น ปกติ

เเบบที่ 6 รหัส ALL7 - ร้อยเชือกในรูทุกรูที่ 7 ในรูปแบบ X แต่ที่ รูที่ 6 ไปรูปที่ 7 ให้ร้อยออกจากด้านข้างที่อยู่ในฝั่งเดียวกันเเล้วจึงนำปลายของเเต่ละฝั่งไปร้อยเข้าในรูที่อยู่ระหว่างรูที่ 6 เเละ 7 ที่เกิดขึ้นของฝั่งตรงข้ามเเล้วจึงรัดสาย ในความเเน่นปกติ


นักวิจัยทั้งสองท่าน ให้นักวิ่งทั้ง 20 คน ร้อยเชือกรองเท้าเเต่ละแบบแล้วให้นักวิ่ง วิ่งบนแผ่น รับเเรงต่างๆพร้อมทั้งติดตัววัดค่าต่างๆ เพื่อดูเคลื่อนไหวของส้นเท้าเเละ เเรงกระเเทกเวลาวิ่งว่าต่างกันหรือไม่ พร้อมทั้งนักวิ่งทั้งหมดเกี่ยวกับความสบายเเละความมั่นคง

ผลวิจัยออกมาพบว่า รหัส TIGHT6(แบบที่ 3), รหัส ALL7(แบบที่ 6) เเละรหัส REG6 (แบบที่ 1) ดีต่อการเคลื่อนไหวของส้นเท้าในช่วงที่ส้นเท้ากระทบพื้น สำหรับเเรกกระเเทกนั้น แบบ ALL7(แบบที่ 6) ช่วยลดเเรงกระเเทกได้มากที่สุดเพราะส้นเท้าของรองเท้า ทำหน้าที่ได้ตรงตำเเหน่ง ส่วน รหัส WEAK 6 (แบบที่ 2) นั้นมีการช่วยลดเเรงกระเเทกน้อยที่สุด สำหรับความรู้สึกมั่นคงเวลาที่วิ่ง นักวิ่งยกให้ รหัส TIGHT6(แบบที่ 3) เเละ ALL7(แบบที่ 6) ส่วนความสบายในการสวมใส่นั้นแบบ WEAK6(แบบที่ 2) เเละแบบ EYE135(แบบที่ 5) นั้น นักวิ่งทั้ง 20 คนชอบมากที่สุดค่ะ

วิจัยนี้น่าสนใจมากๆเลยใช่มั้ยละคะ อย่างไรก็ตามถ้าท่านผู้อ่านสนใจที่จะอ่านเพิ่มเติม เข้าไปตามลิ้งค์ด้านล่างที่เราเเนบมาได้เลยนะคะ

อย่างไรก็ตามการเลือกรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้ากีฬาดีๆสักคู่นึง ให้เหมาะกับสุขภาพเท้าของเเเต่ท่านนั้นก็สำคัญไม่เเพ้การร้อยเชือกรองเท้าเเน่นอนค่ะ หากท่านมีปัญหาสุขภาพเท้าด้วยเเล้ว การ มีเเผ่นรองในรองเท้าที่ช่วยเเก้ไขปัญหากลไกทางกลศาสตร์ของเท้าที่มีนักกายอุปกรณ์เฉพาะทางช่วยออกแบบ อีกทั้งยังป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บระหว่างออกกำลังกายด้วย การวิ่งหรือการออกกำลังกายก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลต่อไปค่ะ


อย่างไรก็นำไปปรับใช้กันได้นะคะ







163 views0 comments

Comments


bottom of page